ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ของขวัญจากในหลวง...

ของขวัญจากในหลวง



ประสบการณ์ดีๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับสั่งให้กำลังใจในการทำงาน


องคมนตรีสุเมธ ท่านได้เล่าให้ฟังว่า.....
"ตอนนั้นผมกำลังทำงานอยู่ในสภาพจิตใจที่แย่มาก
มันไม่มีกำลังใจจะทำอะไร ท้อแท้กับงานมาก
ไม่มีใครเข้าใจ เหมือนทำดีแต่ไม่ได้ดี"

ในหลวงท่านทรงเสด็จมาพอดี
และท่านได้เห็นสีหน้าผมไม่สู้จะดี
ท่านได้สอบถามจนได้ความว่าผมกำลังท้อแท้กับงาน
ท่านจึงตั้งคำถามและรับสั่งว่า....




"ท่านสุเมธเคยขายเศษเหล็กไหม
เศษเหล็กเหล่านั้น เวลาขาย คุณค่ามันต่ำมาก
คงได้เงินมาไม่กี่บาท

แล้วถ้าเราเอาเศษเหล็กเหล่านั้นมาหลอมรวมกันเป็นแท่ง
เวลาหลอมนี่ เหล็กมันคงรู้สึกร้อนมาก
พอหลอมเสร็จ เรานำมาทำเป็นดาบ
คงต้องนำมาตีให้แบนอีก
เวลาตีก็ต้องคอยเอาไปเผาด้วย
ต้องตีไป เผาไป อยู่หลายรอบกว่าจะเป็นรูปเป็นร่าง
ได้ดาบอย่างที่เราต้องการ




ต้องผ่านความเจ็บปวด ความร้อนอยู่นาน
แถมเมื่อเสร็จแล้ว ถ้าจะให้สวยงามดังใจ
ก็ต้องนำไปแกะสลักลวดลาย
เวลาที่แกะลวดลาย ก็คงต้องใช้ของแข็งของมีคมมาตีให้เป็นลวดลายอีก

แต่เมื่อเสร็จเป็นดาบที่งดงามก็จะมีคุณค่าที่สูงมาก
เทียบกับเศษเหล็กคงจะต่างกันลิบลับ

จะเห็นว่ากว่าที่เศษเหล็กไม่มีคุณค่ามากนัก
จะกลายเป็นดาบอันงดงามนั้น
ต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย
ทั้งความเจ็บปวดต่างๆ กว่าจะประสบความสำเร็จ....




ดังนั้น
ขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า
'ใครไม่เคยถูกตี ถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น
จงอย่าได้หาญคิดทำการใหญ่' "



...............................................................



วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

” ร่วม แรง ร่วม ใจ”

ทำสิ่งที่ยากแสนยากให้สำเร็จ  อาศัยคาถาเพียงสี่คำ….

" ร่วม แรง ร่วม ใจ”





การที่ขึ้นหัวข้อเช่นนี้...เป็นเพราะสถานการณ์ในชาติไทยของเรายามนี้ กำลังสับสนกับความหมายและหน้าที่ของพลเมืองต่อคำสองคำนี้ ขุนรองปลัดชู แม่กองอาทมาท วิเศษไชยชาญ คือตัวอย่างที่ชัดเจนของ”จิตสำนึกของความรักชาติ”อย่างแท้จริง





 "แผ่นดินมันกำลังอ่อนแอ....อ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเรือนใกล้จะพัง คานใกล้จะขาด เสาผุกร่อน เพราะปลวกมอดมันเจาะกินใน ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน วันนึง ถ้ามันต้องเผชิญกับพายุร้าย แม้นแรงเพียงนิด มันก็ไม่แคล้วต้องพังทลายลง........" ขุนรองปลัดชู วีรชน








ความห่วงใยแผ่นดินปลุกให้กูลุกขึ้นมาทุกวัน ลุกขึ้นมาเพื่อบอกกับลูกหลานว่า เราต้องดูแลตัวอง ดูแลบ้านเกิดของตัวเอง ดูแลวิเศษไชยชาญ แต่งานใหญ่เพียงนี้ไม่อาจจทำให้สำเร็จได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง กูพยายามส่งผ่านความคิดของกู ไปยังผู้ที่มีจิตใจรักแผ่นดิน  กูมีความหวังว่าความคิดของกูคงไม่โดดเดี่ยว แล้วกูก็มีความหวังว่า ความห่วงใยบ้านเกิดจะปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้นมาพร้อมกัน เราต้องพร้อมที่จะสู้เพื่อบ้าน สู้เพื่อวิเศษไชยชาญ” – ขุนรองปลัดชู







กูปลาบปลื้มแทนแผ่นดินนัก สิ่งที่พวกมึงตัดสินใจในวันนี้คือ ย่างก้าวแรกของความกล้าหาญ เป็นบทพิสูจน์ของหัวใจที่เสียสละพวกเราไม่ใช่ทหาร พวกเราเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่พร้อมจะสำแดงความรักและหวงแหนผืนแผ่นดินโดยไม่หวังลาภยศสรรเสริญ ลูกหลานวิเศษไชยชาญทุกคนจะจำความห้าวหาญของพวกมึงไว้เป็นเยี่ยงอย่าง  พวกมึงจะจำเอาไว้ว่าวันนี้เราจะไม่รบเพื่อวิเศษฯ แต่ดาบของเราจะรบกับศัตรูเพื่อแผ่นดินแม่” – ขุนรองปลัดชู







นี่แหละหนา..คือ"ค่า..แห่งชีวิต"
ยากเพียงนิด..อย่าละเมอ..เพ้อพร่ำบ่น
ก้าวต่อไป..เยื้องย่าง..อย่างอดทน
สมกับค่า..ความเป็นคน.."ค้นถูกทาง".....



วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ภาพนี้....มีความหมาย....??

ใน Blog นี้......
จะขออันเชิญภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช       ที่ประทับใจ


ภาพแรก  ลายพระหัตถ์  " ในหลวง "





พระองค์ทรงนั่งติดดิน...





 " คู่ฟ้า คู่แผ่นดิน "








เวลาที่ลูกเหนื่อย ท้อ ไม่มีกำลังใจ   ภาพนี้แหละ  ที่เป็นแรงบันดาลใจ 




ในหลวง และทุกพระองค์ แย้มพระสรวล..... 
ดูภาพนี้แล้ว...มีความสุขมากค่ะ  




ไม่รู้จะอธิบายยังไง... อยู่ดี ๆ  น้ำตาก็ไหล





ไม่ต้องมี....วจีเอ่ยเอื้อนใด ใด
บรรยายความหมายได้เทียบค่า




พ่อแห่งแผ่นดิน 





ทะเบียนสมรส.... " คู่ฟ้า คู่แผ่นดิน "





ใครขับรถ.... ???




ปิดท้ายด้วยภาพประทับใจ  ในหลวงกับสมเด็จพระเทพฯ
ท้ายสุดได้อัญเชิญพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
เรื่อง " เดินตามรอยเท้าพ่อ "



“ ฉันเดินตามรอยเท้าอันรวดเร็วของพ่อโดยไม่หยุด
ผ่านเข้าไปในป่าใหญ่ น่ากลัว ทึบ
แผ่ไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด มืดและกว้าง
มีต้นไม้ใหญ่เหมือนหอคอยที่แข้มแข็ง
พ่อจ๋า…
ลูกหิวจะตายอยู่แล้วและเหนื่อยด้วย
ดูซิจ๊ะ…
เลือดไหลออกมาจากเท้าทั้งสองที่บาดเจ็บของลูก
ลูกกลัวงู เสือ และหมาป่า
พ่อจ๋า…
เราจะถึงจุดหมายปลายทางไหม?

ลูกเอ๋ย…
ในโลกนี้ไม่มีที่ไหนดอกที่มีความรื่นรมย์
และความสบายสำหรับเจ้า
ทางของเรามิได้ปูด้วยดอกไม้สวยสวย
จงไปเถิด แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่บีบคั้นหัวใจเจ้า
พ่อเห็นแล้วว่า หนามตำเนื้ออ่อนอ่อนของเจ้า
เลือดของเจ้า เปรียบดั่งทับทิมบนใบหญ้าใกล้น้ำ
น้ำตาของเจ้าที่ไหลต้องพุ่มไม้สีเขียว
เปรียบดั่งเพชรบนมรกตที่แสดงความงดงามเต็มที่
เพื่อมนุษยชาติ จงอย่าละความกล้า
เมื่อเผชิญกับความทุกข์ให้อดทนและสุขุม
และจงมีความสุขที่ได้ยึดอุดมการณ์ที่มีค่า
ไปเถิด…
ถ้าเจ้าต้องการเดินตามรอยเท้าพ่อ....” 











วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

รักพ่อภาคปฏิบัติ: รักพ่อภาคปฏิบัติ: นางสาวเบญจพร กาญจนาภรณ์

รักพ่อภาคปฏิบัติ: รักพ่อภาคปฏิบัติ: นางสาวเบญจพร กาญจนาภรณ์: รักพ่อภาคปฏิบัติ: นางสาวเบญจพร กาญจนาภรณ์: " กิจกรรมรักพ่อภาคปฏิบัติ " เริ่มต้นจากการรววมตัวของกลุ่มค...

นางสาวเบญจพร กาญจนาภรณ์


                 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถโปรดให้พิมพ์บทกลอนนี้ลงในกระดาษการ์ดแผ่นเล็ก ๆ พระราชทานแก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และผู้ทำงานเพื่อประเทศชาติ เตือนสติมิให้ท้อถอยในการทำความดี ต่อมา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอให้                    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใส่ทำนองเพลงในคำกลอน "ความฝันอันสูงสุด" ใน พ.ศ. 2514 ร้องโดย ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค

เพลงความฝันอันสูงสุด



ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ
ขอสู้ศึกทุกเมื่อไม่หวั่นไหว
ขอทนทุกข์รุกโรมโหมกายใจ
ขอฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทะนง
จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด
จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง
จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
ไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ควร
ไม่เรรวนพะว้าพะวังคิดกังขา
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา
ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
นี่คือปณิธานที่หาญมุ่ง
หมายผดุงยุติธรรม์อันสดใส
ถึงทนทุกข์ทรมานนานเท่าใด
ยังมั่นใจรักชาติองอาจครัน
โลกมนุษย์ย่อมจะดีกว่านี้แน่
เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน
คงยืนหยัดสู้ไปใฝ่ประจัญ
ยอมอาสัญก็เพราะปองเทิดผองไทย
  " รักพ่อภาคปฏิบัติ "
ตรงนี้ "คนรักพ่อ" รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มไหน สีไหน ก็ต้อนรับ
ขอเพียงมาตรงนี้ ทุกคนอยู่กลุ่มเดียวกัน คือกลุ่มของในหลวง ไม่แยก ไม่แตก
จำให้ขึ้นใจ พวกล้มเจ้ารวมกันเข้มแข็ง แล้วพวกเราจะแยกกันอีกทำไม






















                   คำปฏิญาณตน   เพราะพระองค์ปลูกข้าว ข้าพพระพุทธเจ้าจึงรักผืนนาดั่งดวงจิตเพราะพระองค์สร้างบัณฑิต ข้าพพระพุทธเจ้าจึงอุทิศตนเพื่อประชาเพราะพระองค์สร้างป่าข้าพพระพุทธเจ้าจึงรักษาผืนป่าด้วยหัวใจเพราะพระองค์สร้างชาติไซร้ ข้าพระพุทธเจ้าจะรักษาชาติไว้ด้วยชีวิต


                        วันนี้ เหล่าข้าพพุทธเจ้าทั้งหลายจึงได้มารวมกัน ณ ที่แห่งนี้เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระองค์ว่าด้วยสติ ปัญญา หยาดเหงื่อ แรงกายจะขออุทิศถวายเพื่อปกป้องเอาไว้ซึ่งผืนดินไทยทุกตารางนิ้วกอบกู้เกียรติภูมิของชาติเเละสถาบันกษัตริย์การจากนี้สืบไป กิจการงานใดที่เหล่าข้าพระพุทธเจ้าจะกระทำไปเพื่อบ้านเมืองเพื่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเเละพระบรมวงศานุวงศ์ขอให้การสิ่งนั้นจงสัมฤทธิ์ผลโดยพลันขอความเพียรอันบริสุทธิ์ สติปัญญาอันเฉียบเเหลม ความกล้าหาญเเละความสมัครสมานสามัคคีจงบังเกิดมีแก่เหล่าข้าพพระพุทธเจ้าทุกคนเพื่อทำการครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยเทอญ...                              ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ




















" รักพ่อภาคปฏิบัติ " ได้ออกมาทำกิจกกรมร่วมกัน เพื่อแสดงพลัง ซึ่งเกิดจากกลุ่มคนใน Social network   การสื่อสาร รายงานความเคื่อนไหว ในการทำกิจกรรม นัดวัน เวลา และสถานที่  จะติดตามกันทาง Facebook     หลังจากที่มีผู้เริ่มสนใจกิจกรรมดังกล่าวมากขึ้น เรื่อย ๆ   จึงได้จัดทำ Facebook **รักพ่อภาคปฏิบัติ** ซึ่งสามารถ สื่อสาร ติดต่อกันได้ง่ายยิ่งขึ้น